จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เครื่องดนตรีประเภทตี กลองปู่เจ่


                            กลองปู่เจ่ เป็นเครื่องดนตรีประเภทตี มีรูปร่างคล้ายกลองยาวซึ่งเรียกกลองชนิดนี้ว่า "กลองก้นยาว"ไม้ที่จะนำมาสร้างเป็นตัวกลองก่อน ไม้ที่นิยมกันมาก ได้แก่ ไม้ซ้อ  และไม้ขนุน  เมื่อได้ไม้แล้วนำมาถากพอเป็นรูปร่าง หน้ากลองกว้างประมาณ 25 - 28 เซนติเมตร ความยาวของไหกลองประมาณ 40 เซนติเมตร ความยาวจากไหถึงส่วนคอดประมาณ30เซนติเมตรความยาวส่วนคอดประมาณ 20 เซนติเมตร และความยาวส่วนท้ายประมาณ 47 -50 เซนติเมตร สำหรับหนังที่ใช้ขึงเป็นหนังหน้ากลอง นิยมใช้หนังวัวตัวเมีย ไม่มีรอยแส้ และต้องเป็นหนังจากลำตัวด้านซ้าย เพราะมีลักษณะบางไม่ด้านหรือหนาเหมือนหนังจากลำตัวด้านขวาที่ถูกนอนทับ เสียงกลอง จะดังกังวานไพเราะ ต้องมีการติดถ่วงหน้าหรือติดขี้จ่ากลองซึ่งหมายถึงการตีกลองปู่เจ่มักพบเห็นในงานบุญของวัด ขบวนแห่ต่างๆ รวมถึงการแห่หรือประโคมประกอบการฟ้อนเชิง ฟ้อนดาบ เต้นโต ฟ้อนนางนก กระทั่งการปล่อยว่าวควัน และโคมไฟ เป็นต้น



ติดตามข่าวสารดีๆเกียวกับดนตรีไทยได้ที   http://www.livethaimusic.com/

วันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เครื่องดนตรีประเภทตี ตะโล้ดโป๊ด


                                ตะโล้ดโป๊ด  เป็นเครื่องดนตรีประเภทตี กลองตะโล้ดโป๊ดนั้นขึ้นด้วยหนังสองหน้า หุ่นกลองทำด้วยไม้แก่นเนื้อแข็ง และใช้สายโยงเร่งเสียงมีรูปร่างลักษณะ และขนาดเช่นเดียวกับ "เปิงมาง"และ "สองหน้า" แต่ตัวกลอง  ยาว  78  ซ.ม.  ซึ่งยาวกว่าสองหน้าประมาณ  20  ซม. หน้ากลองตะโล้ดโป๊ดข้างหนึ่งใหญ่  มีขนาดกว้างประมาณ 20  ซม.  ส่วนอีกข้างหนึ่งเล็ก  วัดผ่านศูนย์กลางประมาณ  17  ซม. มีหูผูกห้อยทำด้วยหนังอยู่ตรงขอบทางหน้าเล็ก และใช้ตีทางหน้าเล็ก ตะโล้ดโป๊ดปกติก็ใช้บรรเลงร่วมกับกลองแอว์  และเครื่องดนตรีอื่น ๆประกอบการเล่นเพลงพื้นเมืองภาคเหนือ  เช่น  ฟ้อนเทียน  ฟ้อนเล็บ  ฟ้อนเมือง  และใช้ตีเข้าขบวนแห่เคลื่อนที่ในงานพิธีพื้นเมืองภาคเหนือ




ติดตามข่าวสารดีๆเกียวกับดนตรีไทยได้ที   http://www.livethaimusic.com/

วันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เครื่องดนตรีประเภทตี กลองถิ้งบ้อม


                                        กลองถิ้งบ้อม  เป็นเครื่องดนตรีประเภทตีมีลักษณะเป็นกลองสองหน้ารูปลักษณ์คล้ายกลองสะบัดชัย แต่มีขนาดเล็กกว่ากลองสะบัดชัย 2 - 3 เท่าที่มาของชื่อเรียกตามเสียงกลองที่ตีรับกันระหว่างกลองสิ้งหม้องกับกลองทั่ง “ถิ้ง”และ “บ้อม”เวลาบรรเลงเสียงจะดัง “ถิ้งบ้อม ๆ”กลองทั่งเป็นจังหวะหลักพร้อมกับเสียงฆ้อง รับกับเสียงกลองสิ้งหม้องให้มีเสียงถิ้งบ้อม ๆ ๆ โดยมีฉาบ  2 คู่ตีขัดจังหวะ เชื่อมรับกันไป
ทั้งนี้อาจมีชื่อที่ใกล้เคียงกับชื่อนี้บ้าง เช่น เทิ้งบ้อง ทิ้งบ้อม ทิ่งบ่อม เถิ้งบ้อม เป็นต้น แต่ก็ล้วนเป็นชื่อเรียกตามเสียงที่ได้ยินทั้งนั้น เวลาตีใช้ไม้นวมตีเป็นจังหวะ ๆ ไปวงกลองถิ้งบ้อมใช้ตีในขบวนแห่นาคสามเณและยังใช้ตีประกอบการฟ้อนเชิง ฟ้อนดาบ และตีในขบวนแห่ทั่วไป



ติดตามข่าวสารดีๆเกียวกับดนตรีไทยได้ที   http://www.livethaimusic.com/

วันศุกร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เครื่องดนตรีประเภทตี กลองสิ้งหม้อง



                              กลองสิ้งหม้อง  เป็นเครื่องดนตรีประเภทตี เป็นกลองหน้าเดียวลักษณะคล้ายกลองยาว เวลาตีจะมีเสียงดัง "สิ้งหม้อง ๆ" กลองสิ้งหม้องนั้นทำมาจาก ไม้ขนุน ไม้มะม่วง  หรือไม้ฉำฉา ก็ได้ ขนาดและสัดส่วนของตัวกลอง แต่เดิมใช้ขนาดของหน้ากลองกำหนดสัดส่วนอื่นคือความยาวของไหกลองยาว ๑ เท่าของหน้ากลอง  ความยาวจากไหกลองถึงก้นกลองยาว ๒ เท่าของหน้ากลองสัดส่วนที่นิยมปัจจุบันคือ
หน้ากลองกว้างประมาณ ๒๐ - ๓๐ เซนติเมตร ความยาวไหประมาณ ๒๕ - ๓๐ เซนติเมตร และความยาวส่วนท้ายประมาณ ๔๓ - ๔๕ เซนติเมตร หนังสำหรับหุ้มหน้ากลองนั้น ใช้หนังวัวตัวเมีย วิธีการหุ้มขึงให้ตรึงโดยใช้สายเร่งเสียงยึดโยงระหว่างคร่าวหูหิ่งกับเล็บ ช้าง ดึงให้หนังอยู่ตัวจนใช้การได้โดยทั่วไปแล้ววงกลองสิ้งหม้องใช้ในการตีประกอบการฟ้อนเชิง ฟ้อนดาบ และใช้ตีในขบวนแห่โดยทั่วไป



ติดตามข่าวสารดีๆเกียวกับดนตรีไทยได้ที   http://www.livethaimusic.com/

วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เครื่องดนตรีประเภทเป่า ขลุ่ยเมือง


                              ขลุ่ยเมือง   เป็นเครื่องดนตรีประเภทเป่า โดยขลุ่ยเมืองจะมีรูเสียง 7 รู หรือ 6 รูเสียง ก็ได้
เป็นเครืองคนตรีที่ใช้เป่าร่วมบรรเลงวงสล้อซอซึงทางภาคเหนือมีลักษณะใกล้เคียงกับขลุ่ยหลิบแต่ไม่มีรูค้ำ
ขลุ่ยพื้นเมืองนั้นทำจากท่อพลาสติก ไผ่รวก หรือประเภทไม้เนื้อแข็งก็ได้ การเล่นก็เหมือนขลุ่ยทั่วไปมักอาศัยความชำนาญของผู้เล่นเป็นหลัก



ติดตามข่าวสารดีๆเกียวกับดนตรีไทยได้ที   http://www.livethaimusic.com/

วันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เครื่องดนตรีประเภทดีด พิณอีสาน


                                 พิณอีสาน   เป็นเครื่องดนตรีประเภทดีด เป็นพิณที่ 2 สาย 3 สาย หรือ 4 สายก็ได้มักจะทำด้วยไม้ไม้ขนุนที่มีน้ำหนักเบาและให้เสียงทุ้มกังวานไพเราะกว่าไม้ชนิดอื่น มีรูปร่างคล้ายกีตาร์แต่ฝีมือหยาบกว่า โดยแบ่งออกเป็น2 คู่ เป็นสายเอก 2 สาย และสายทุ้ม 2 สาย ปัจจุบันใช้สายกีตาร์แทนการขึ้นสายไม่มีระบบแน่นอน เวลาเล่นใช้มือกดที นมหรือขั้นที่ใช้นิ้วกดบังคับระดับเสียงจะไม่ฝังตายตัวเหมือนกีตาร์หรือแมนโดลิน การเล่นก็เล่นเป็นเพลงเรียกว่าลาย โดยมากพิณจะเล่นคู่กันกับแคน และวงดนตรีพื้นบ้านภาคอีสาน



ติดตามข่าวสารดีๆเกียวกับดนตรีไทยได้ที   http://www.livethaimusic.com/

วันเสาร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เครื่องดนตรีประเภทตี เปิงมาง


                         เปิงมาง  เป็นเครื่องดนตรีประเภทตี เดิมเป็นเครื่องดนตรีของชาวมอญ เล่นในวงปี่พาทย์มอญ ภายหลังชาวไทยนิยมนำมาบรรเลงที่ประกอบด้วยกล่องสองหน้าที่ขึงด้วยหนัง ตัวกลองทำด้วยไม้จำนวน ๗-๙ ใบ ผูกเป็นราวอยู่ในชุดเดียวกัน ขึงด้วยหนัง ๒ หน้า ขึ้นหน้าด้วยหนังเรียดโยงสายเร่งหนังหน้ากลองเป็นแนวยาวตลอด หุ่นกลอง มีขนาดใหญ่เล็กลดหลั่นกัน เทียบเสียงเท่ากับเครื่องดนตรีอื่นๆ ในวงตามบันไดเสียง กลองเหล่านี้แขวนไว้กับคอกไม้ที่ทำด้วยไม้เนื้อแข็ง ประกอบกันเป็นรูปโค้ง คนตีนั่นในคอก ตีด้วยมือตามจังหวะ และทำนองเพลงเวลาบรรเลงต้องติดข้าวสุกบดผสมขี้เถ้าตรงกลางก่อนลูกเปิงมางแต่ละใบจะมีห่วงไว้แขวน คอกเปิงมางทำเป็นรั้ว ๓ ชิ้นติดต่อกัน โดยใช้ตะขอ



ติดตามข่าวสารดีๆเกียวกับดนตรีไทยได้ที   http://www.livethaimusic.com/

วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เครื่องดนตรีประเภทดีด พิณน้ำเต้า



                                             พิณน้ำเต้า เป็นเครื่องดนตรีประเภทดีด เป็นพิณสายเดียว ทำจากลูกน้ำเต้าและต่อมาได้ดัดแปลงเป็นพิณหลายสาย การเล่นพิณน้ำเต้า ผู้เล่นส่วนใหญ่เป็นชาย เวลาเล่นจะไม่สวมเสื้อ ใช้ส่วนที่ทำจากน้ำเต้า กดทับลงที่หน้าอกใช้ดีดประสานเสียงกับเสียงซอของผู้เล่น ที่เรียกชื่อว่า พิณน้ำเต้า เพราะเอาเปลือกผลน้ำเต้ามาตัดครุ่งลูกแล้วเอาทางจุกหรือทาง
ส่วนประกอบของพิณน้ำเต้ามีดังนี้
 - กะโหลก  ทำด้วยผลเปลือกน้ำเต้า ตัดครึ่งลูก โดยเอาจุกหรือทางขั้วไว้  เจาะตรึงติดกับไม้คันพิณ 
    ซึ่งเรียกว่า 'คันทวน' เพื่ออุ้มเสียงให้เกิดกังวาน
- คันทวน ทำด้วยไม้ เหลาให้มีลักษณะกลมเรียวยาว หัวใหญ่ปลายโค้งงอ ยอดสุดกลึงเป็นรูปเม็ด 
   สำหรับผูกสาย ส่วนตอนหัวกลึงเป็นรูปเม็ด แต่ใหญ่กว่าตอนยอด เพื่อสวยงาม
- ลูกบิด  ทำด้วยไม้ กลมเรียวเล็ก ตอนหัวกลึงเป็นเม็ดประกอบลูกแก้ว  ตอนปลายเรียวเล็ก
   เพื่อสอดใส่เข้าไปในคันทวนและให้ปลายโผล่เพื่อพันผูกสาย
- รัดอก  จะทำด้วยเชือกสำหรับโยงมัดสายกับคนทวนเหนือขั้วผลน้ำเต้าสูงพอประมาณเพื่อให้สาย
  ตึงได้เสียงที่ไพเราะ
- สาย แต่เดิมนั้นได้ใช้เส้นหวายและต่อมาใช้สายไหม ปัจจุบันใช้สายทองเหลือง โดยพันผูกจากปลายลูกบิดไปยังปลายคันทวนที่โค้งงอ



 
ติดตามข่าวสารดีๆเกียวกับดนตรีไทยได้ที   http://www.livethaimusic.com/

วันพฤหัสบดีที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เครื่องดนตรีประเภทดีด พิณเพียะ



                     พิณเพียะ  เป็นเครื่องดนตรีประเภทดีดที่เป็นเครื่องดนตรีพื้นเมืองลานนา มีลักษณะคล้ายพิณน้ำเต้า แต่มีสายเพิ่มขึ้นเป็น 2 สาย หรือ 4 สาย คันทวนยาวประมาณ 1 เมตรเศษลูกบิดยาวประมาณ 18 ซ.ม.
สำหรับเร่งเสียง กระโหลกทำด้วยผลน้ำเต้า นำมาตัดครึ่งลูก หรือทำด้วยกะลามะพร้าว  ตอนปลายคันทวนทำด้วยเหล็กรูปหัวช้าง ทองเหลือง สำหรับใช้เป็นที่พาดสาย ใช้สายทองเหลืองเป็นพื้น  ในสมัยก่อนชาวเหนือมักจะใช้พิณเปี๊ยะ ดีดคลอกับการขับลำนำในขณะที่ไปเที่ยวสาว พิณเปี๊ยะไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร เพราะเป็นเครื่องดนตรีที่เล่นยาก ปัจจุบันพิณเปี๊ยะมีสายสายทั้ง 2 สาย4 สายและมากสุดถึง 7 สาย  ที่นิยมเล่นกันมาคือ สองสาย กับ สี่สาย คำว่า เปี๊ยะ เป็นภาษาล้านนา แปลว่า อวด เวลาดีดจะต้องนำเอากระโหลกมาประกบแนบกับหน้าอก




ติดตามข่าวสารดีๆเกียวกับดนตรีไทยได้ที   http://www.livethaimusic.com/

วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เครื่องดนตรีประเภทดีด กระจับปี่

                  
        กระจับปี่  เป็นเครื่องดนตรีประเภทดีด  เป็นพิณชนิดหนึ่งมี 4 สาย เหตุที่เรียกเครื่องดนตรีชนิดนี้ว่าสันนิษฐานกันว่าน่าจะมาจากภาษาชวา คำว่า กัจฉปิ ซึ่งคำว่า กัจฉปิ นั้นมีรากฐานของคำศัพท์ ในบาลีสันสกฤต คำว่า กัจฉปะ ที่แปลว่า เต่า เนื่องจากลักษณะของกระจับปี่นั้น จะมีกระโหลกเป็นรูปกลมรีแบนทั้งหน้าหลังมีความหนาประมาณ 7 ซม. ด้านหน้ายาวประมาณ 44 ซม. กว้างประมาณ 40 ซม. ทำคันทวนเรียวยาวประมาณ 138 ซม.ซึ่งมองแล้วคล้ายกับกระดองของเต่า และมีลูกบิดสำหรับขึ้นสาย 4 อัน มีนมรับนิ้ว 11 นมกระจับปี่ในสมัยก่อนนิยมนำไปเล่นโดยหนุ่มผู้ไทยนิยมดีดพิณขณะเดินทางไปหาสาวคนรักในยามหัวค่ำ
 และขณะเดินทางกลับในยามดีด หรือไม่ก็ดีดในงานบุญขณะเดินดูสาวที่ไปในงาน เช่น งานบุญพระเวสฯ
การดีดกระจับปี่นี้จะดีดคนเดียวหรือดีดประสานเสียงกับเครื่องดนตรีอื่นก็ยิ่งดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันนี้ดนตรีผู้ไทยนิยมเล่นกันเป็นวงซึ่งประกอบด้วยหลักแคนเป็นหลัก นอกจากนี้ก็มีพิณ มีปี่ มีซอ และกลอง เป็นต้น ดนตรีไทยไม่นิยมบรรเลงเป็นเอกเทศแต่นิยมบรรเลงประกอบการลำและบรรเลงประกอบการฟ้อนแต่เนื่องจากกระจับปี่มีเสียงเบา และมีน้ำหนักมากเพราะทำจากไม้แก่น ถือติดพกไปไหนไม่สะดวก จึงไม่มีผู้นิยมนำมาเล่น   ต่อมา กระจับปี่จึงหายไปจากวงดนตรีไทย



 
 
ติดตามข่าวสารดีๆเกียวกับดนตรีไทยได้ที   http://www.livethaimusic.com/

วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เครื่องดนตรีประเภทตี ขิมเหล็ก

                                  ขิมเหล็ก เป็นเครื่องดนตรีประเภทตีโดยขิมชนิดนี้ไม่ได้ใช้สายทองเหลืองหรือสายลวดเหล็กเป็นต้นกำเนิดเสียงแต่ใช้แผ่นโลหะแทน เดิมเรียกว่าขิมชนิดนี้ว่า "ขิมทอง" ซึ่งย่อมาจากคำว่า "ขิมทองเหลือง"ทั้งนี้เพราะใช้แผ่นทองเหลืองเรียง กันแทนตำแหน่งของสายขิม เวลาบรรเลงจะมองเห็นแผ่นทองเหลืองเรียงกันในรูปแบบเดียวกับสายขิมดังนั้นผู้บรรเลงขิมจึงไม่ต้องเปลี่ยนความรู้สึกและสามารถบรรเลงไปตามที่เคยชินได้ทันที ขิมทองหรือขิมทองเหลืองนี้ต่อมาภายหลังเรียกกันหลายชื่อตามวัสดุที่ใช้แทนสายขิมเช่นถ้าใช้แผ่นเหล็กก็เรียกว่าขิมเหล็ก ถ้าใช้แผ่นอะลูมิเนียมก็เรียกว่าขิมอะลูมิเนียม ดังนั้นเพื่อกันความสับสนจึงเปลี่ยนมาเรียกชื่อขิมชนิดนี้ว่า "ขิมแผ่น" เพราะใช้แผ่นโลหะวางเรียงกันแทนการขึงด้วย




ติดตามข่าวสารดีๆเกียวกับดนตรีไทยได้ที   http://www.livethaimusic.com/
           

วันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เครื่องดนตรีประเภทตี ฆ้องโหม่ง


                                   ฆ้องโหม่ง  เป็นเครื่องดนตรีประเภทตีที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง  30-45 เซนติเมตร  เมื่อตีได้เสียงดัง "โหม่ง - โหม่ง" จึงเรียกชื่อตามเสียงว่า ฆ้องโหม่ง เดิมใช้ตีบอกเวลาใช้ตีกำกับจังหวะ มีขนาดใหญ่ รองลงมาจากฆ้องหุ่ย ได้ชื่อนี้ตามเสียงที่เกิดจากการตี




ติดตามข่าวสารดีๆเกียวกับดนตรีไทยได้ที   http://www.livethaimusic.com/

วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เครื่องดนตรีประเภทสี ซอสามสาย

                         ซอสามสาย เป็นเครื่องดนตรีประเภทสีเป็นเครื่องดนตรีของไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยามีซอสามสายและนิยมเล่นกัน และลักษณะรูปร่างของซอสามสายก็คงจะยังไม่สวยงามมากอย่างในปัจจุบันนี้มีชื่อตามลักษณะรูปร่าง คือ มี 3สายมีลักษณะคล้ายกับเครื่องดนตรีของจีนที่เรียกว่า 'สานเสียน' และเครื่องดนตรีของญี่ปุ่นที่เรียกว่า 'ซามิเส็น' ซอสามสาย จะมีลักษณของกล่องเสียงทำด้วยกะลามะพร้าวตัดขวางให้เหลือพูทั้งสามอยู่ด้านหลัง ขึงหน้าด้วยหนังแพะในปัจจุบันซอสามสายเป็นซอที่มีรูปร่างวิจิตรงดงามที่สุด ถือเป็นเครื่องดนตรีชั้นสูงที่เล่นยากแต่นิยมกันว่าไพเราะและสอดประสานเข้ากับเสียงขับร้องของนักร้องไทยได้เป็นอย่างดี แต่ก่อนใช้บรรเลงในพระราชพิธีอันเนื่องด้วยองค์พระมหากษัตริย์ ภายหลังนิยมเล่นคลอขับร้องผสมวงคู่กับกระจับปี่ในวงมโหรีและวงเครื่องสาย


ติดตามข่าวสารดีๆเกียวกับดนตรีไทยได้ที   http://www.livethaimusic.com/

วันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เครื่องดนตรีประเภทตี โปงลาง

                               โปงลาง เป็นเครื่องดนตรีประเภทตีมีลักษณะกับคล้ายกับระนาดคือนำท่อนไม้หรือกระบอกไม้มาร้อยติดกันเป็นผืนและใช้ไม้ตีเป็นทำนองเพลง แขวนตี กับเสาบ้าง ขึงบนรางบ้าง หรือบางทีก็ผูกติดกับตัวผู้บรรเลงโปงลาง1ชุดจะมีจำนวนประมาณ12ลูกใช้เชือกร้อยรวมกันเป็นผืน เวลาตีต้องนำปลายเชือกด้านหนึ่งไปผูกแขวนไว้กับเสาในลักษณะห้อยลงมา ส่วนปลายเชือกด้านล่างจะผูกไว้กับขาหรือเอวของผู้ตี วิธีการเทียบเสียง โปงลาง ทำโดยการเหลาไม้ให้ได้ขนาด และเสียงตามต้องการ ยิ่งเหลาให้ไม้เล็กลงเท่าใดเสียงก็จะยิ่งสูงขึ้น ซึ่งแตกต่างจากระนาดในปัจจุบัน ที่มีเจ็ดเสียง และมีการปรับแต่งเทียบเสียงด้วยการใช้ ตะกั่วผสมขี้ผึ้ง ถ่วงใต้ผืนระนาด เพื่อให้ได้ระดับเสียงและคุณภาพเสียงที่ต้องการ การบรรเลงโปงลาง นิยมใช้ผู้บรรเลงสองคนต่อเครื่องดนตรีหนึ่งชิ้น



ติดตามข่าวสารดีๆเกียวกับดนตรีไทยได้ที   http://www.livethaimusic.com/

วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เครื่องดนตรีประเภทเป่า ปี่


                              ปี่ เป็นเครื่องดนตรีประเภทเป่าของไทยแท้ ทำจากไม้จริงๆกลึงให้เป็นรูปบานหัวบานท้าย ตรงกลางป่องเจาะภายในให้กลวงตลอดเลาทางหัวของปี่เป็นช่องรูเล็กส่วนทางปลายของปี่ปากรูใหญ่ใช้ชันหรือวัสดุอย่างอื่นมาหล่อเสริมขึ้นส่วนหัวเรียก 'ทวนบน' ส่วนท้ายเรียก 'ทวนล่าง' ตอนกลางของปี่ เจาะรูนิ้วสำหรับเปลี่ยนเสียงลงมาจำนวน 6รู รูตอนบนเจาะเรียงลงมา 4 รู เว้นระยะห่างเล็กน้อย เจาะรูล่างอีก 2 รู ตรงกลางของเลาปี่ กลึงขวั้นเป็นเกลียวคู่ไว้เป็นจำนวน 14 คู่ เพื่อความสวยงามและกันลื่นอีกด้วย ตรงทวนบนนั้นใส่ลิ้นปี่ที่ทำด้วย ใบตาลซ้อนกัน 4 ชั้น ตัดให้กลมแล้วนำไปผูกติดกับท่อลมเล็กๆที่เรียกว่า 'กำพวด' กำพวดนี้ทำด้วยทอง เหลือง เงิน นาค เหรือโลหะอย่างอื่นวิธีผูกเชือกเพื่อให้ใบตาลติดกับกำพวดนั้น
เครื่องดนตรีประเภทเป่า ปี่นั้นสามารถจัดออกเป็น 3 ชนิด คือ
1. ปี่นอก มีขนาดเล็ก ยาวประมาณ 31 ซม. กว้าง 3.5 ซม.    เสียงเล็กแหลมสูง  
2.ปี่กลางมีขนาดกลางยาวประมาณ37ซม.กว้างประมาณ4ซม.   เสียงระดับกลาง                                                              
3. ปี่ใน มีขนาดใหญ่ มีความยาวประมาณ 41–42ซม. กว้างประมาณ 4.5 ซม. เสียงต่ำกว่า


 

ติดตามข่าวสารดีๆเกียวกับดนตรีไทยได้ที   http://www.livethaimusic.com/

วันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เครื่องดนตรีประเภทสี สะล้อ


                              สะล้อ  เครื่องดนตรีประเภทเครื่องสีที่บรรเลงด้วยการใช้คันชักสีลงบนสายที่ขึงผ่านหน้ากล่องเสียงทำด้วยกะลามะพร้าวซึ่งตัดด้านหนึ่งออกไปเหลือประมาณ2/3ของกะลาทั้งลูก ตรงที่ถูกตัดออกไปนั้นปิดด้วยไม้เรียบบางๆคันทวนของสะล้อเป็นไม้กลมทำจากไม้เนื้อแข็งยาวประมาณ14เซนติเมตรเสียบทะลุกล่องเสียง ใกล้ ๆ ขอบที่ปิดด้วยตาด ปลายคันทวนเสียบลูกบิด2อันในลักษณะทแยงเข้าไปในคันทวนมีไว้สำหรับผูกสายสะล้อและตั้งสายสายใช้สายโลหะมากกว่าสายเอ็นเหมือนซอด้วงและซออู้คันชักสะล้อทำด้วยไม้โค้งงอคล้ายคันศร ขึงด้วยหางม้าหรือสายไนลอน ไม่เอาคันชักขัดไว้ระหว่างสายเหมือนกับซออู้และซอด้วง สะล้อ มี 2ขนาด ได้แก่ สะล้อเล็ก มี2สาย สะล้อกลาง มี2สาย สะล้อใหญ่ มี 3 สาย มีวิธีการเล่นซอสามสายแต่ไม่เอาคันชักไว้ระหว่างสาย สะล้อที่นิยมบรรเลงคือสะล้อที่มี 2สายส่วนสะล้อ 3สายไม่ค่อยมีผู้นิยมเล่นเพราะเล่นยากกว่าสะล้อ 2 สาย


ติดตามข่าวสารดีๆเกียวกับดนตรีไทยได้ที   http://www.livethaimusic.com/

วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เครื่องดนตรีประเภทดีด พิณอีสาน


                                       พิณอีสาน  เป็นเครื่องดนตรีประเภทดีดที่เป็นเครื่องดนตรีภาคอีสาน พิณพิณอีสาน มีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไปเช่น ซุง ซึง หมากจับปี่ หมากตดโต่ง หมากตับเต่ง เป็นต้น พิณพิณอีสาน ทำด้วยไม้ เช่น ไม้ขนุน เพราะมีน้ำหนักเบาและให้เสียงทุ้มกังวานไพเราะกว่าไม้ชนิดอื่น มีรูปร่างคล้ายกีตาร์ พิณพิณอีสาน อาจจะมี 2 สาย 3 สาย หรือ 4 สายก็ได้ สายของพิณอีสาน แบ่งออกเป็น2 คู่ เป็นสายเอก 2 สายและสายทุ้ม 2 สาย ในปัจจุบันนิยมใช้สายกีตาร์แทนการขึ้นสายไม่มีระบบแน่นอน นมหรือขั้นที่ใช้นิ้วกดบังคับระดับเสียง

ติดตามข่าวสารดีๆเกียวกับดนตรีไทยได้ที   http://www.livethaimusic.com/

วันจันทร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เครื่องดนตรีประเภทดีด ซึง

                          ซึง  เป็นเครื่องดนตรีประเภทดีดที่เป็นเครื่องดนตรีภาคเหนือใช้สายลวดเส้นเล็กๆปัจจุบันนิยมใช้สายกีตาร์แทน ซึงของชาวเหนือเป็นพิณแบบสายคู่ โดยแบ่งเป็นสายบน และคู่สายล่าง การเทียบเสียง สายทุ้ม จะเป็นเสียง โด สายเอก จะเป็นเสียง ซอล มีลูกนับแบ่งเป็นช่อง ๆ คล้ายกีตาร์ซึงมีทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่และยังมีขนาดใหญ่มาก ๆ เรียกกันว่า ซึงหลวง แต่นิยมเล่นกันทั่วไปมักเล่นเพียง ๓ ขนาด คือ ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ซึงใช้เล่นเพื่อให้เสียงประสาน และตัดกัน ในการเล่นเป็นกลุ่ม หรือคณะ
หรือเล่นบรรเลงเดี่ยวโดยเลือกขนาดที่ชอบของแต่ละบุคคล ซึงแต่ละขนาดต่างมีสำเนียงเฉพาะตัว มีความไพเราะ


ติดตามข่าวสารดีๆเกียวกับดนตรีไทยได้ที   http://www.livethaimusic.com/

วันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เครื่องดนตรีประเภทเป่า ปี่ชวา


                   ปี่ชวา เป็นเครื่องดนตรีประเภทเป่ามีรูปร่างลักษณะก็เหมือนปี่ไฉนทุกอย่างปี่ชวาเมื่อสวมท่อลำโพงและเลาปี่เข้าด้วยกันแล้วตรงปากลำโพงก็กว้างขนาดเดียวกับปี่ไฉนทำด้วยไม้ที่ทำต่างจากปี่ไฉนก็คือตอนบนที่ใส่ลิ้นปี่ทำให้บานออกเล็กน้อย ชื่อของปี่ชวาลักษณะรูปร่างเหมือนปี่ไฉนของอินเดียเป็นแต่ดัดแปลงให้ยาวกว่า ปี่ชวานำเข้ามาใช้คราวเดียวกับกลองแขก และเมื่อสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นปี่ชวาใช้ในกระบวนพระยุหยาตราเสด็จพระราชดำเนินแล้วปี่ชวา ใช่ในการเป่าประกอบการเล่นกระบี่กระบองและประกอบการแสดงละคอนเรื่องอิเหนาและใช้ในวงปี่พาทย์นางหงส์ กับใช้ในวงดนตรีที่เรียกว่าวง "ปี่ชวากลองแขก" หรือวง "กลองแขกปี่ชวา"วงเครื่องสายปี่ชวา และวง "บัวลอย" ทั้งนำไปใช้เป่าในกระบวนแห่ซึ่ง "จ่าปี่" เป่านำกลองชนะในกระบวนพระยุหพยาตรา



 ติดตามข่าวสารดีๆเกียวกับดนตรีไทยได้ที   http://www.livethaimusic.com/